Cash is still King โลกวิกฤติคนยิ่งใช้เงินสดเพิ่ม

การเงิน-การธนาคาร

Cash is still King โลกในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ เงินสดก็ยังสำคัญที่สุด

วันนี้เราไปคุยเรื่อง “เงินสด” หรือ Cash กันนะครับ ท่านผู้อ่านคงเคยได้ยินประโยคนี้บ่อยๆ “Cash is King เงินสดคือพระเจ้า” โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ แม้ในช่วงเศรษฐกิจปกติ เงินสดก็ยังสำคัญที่สุด สวนทางกับกระแส เงินดิจิทัล ที่กำลังเติบโตไปทั่วโลก งบการเงินที่สำคัญที่สุดของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ หรือนอกตลาดหลักทรัพย์ รวมไปถึงบริษัทเงินดิจิทัล “กระแสเงินสด” ก็ยังสำคัญที่สุด การมีเงินสดแสดงถึงฐานะการเงินของบริษัทมีความมั่นคงหรือไม่มั่นคงขนาดไหน

ผมนำเรื่องเงินสดมาเล่าสู่กันฟัง เพราะเพิ่งอ่านจากเว็บไซต์ วารสารการเงินธนาคาร รายงานถึงเรื่องเงินสดว่า ในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด
ระบาดและวิกฤติเศรษฐกิจโลก 3 ปีที่ผ่านมา ประชากรโลกมีการใช้เงินสดกันเพิ่มขึ้น สวนกระแสเงินดิจิทัลที่กำลังเติบโต

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าวนี้จากการแถลงของ บริษัท Koenig & Bauer Banknote Solution SA ในสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพิมพ์ธนบัตรชั้นนำของโลก ในโอกาสครบรอบ 70 ปี พบว่า ปริมาณการพิมพ์ธนบัตรกระดาษยังคงได้รับความนิยมต่อเนื่อง ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 และสงครามรัสเซีย–ยูเครน แม้ว่าวิวัฒนาการการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์จะเข้ามาแทนที่การใช้ธนบัตรกระดาษมากขึ้นก็ตาม

บริษัทระบุว่า 90% ของปริมาณธนบัตรกระดาษที่ใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโลก พิมพ์มาจากเครื่องจักรที่ทันสมัยของบริษัท และมีปริมาณเพิ่มขึ้น แม้การชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ สกุลเงินดิจิทัล และผ่านบัตรพลาสติกต่างๆจะขยายตัวอย่างชัดเจนก็ตาม

การเงินธุรกิจ

นาย Eric Boissonnas ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทกล่าวว่า เขามั่นใจว่า ธนบัตรกระดาษจะยังคงเป็นความต้องการของ
ระบบเศรษฐกิจโลก ปัจจุบันการใช้ธนบัตรกระดาษเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2–5% ทุกปี และคาดว่าปริมาณการใช้ธนบัตรกระดาษจะขยายตัวต่อเนื่องในอีก 10-15 ปีข้างหน้า

บริษัท Koenig & Bauer Banknote Solution เป็นบริษัทผู้พิมพ์ธนบัตรสำคัญๆของโลก อาทิ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ เงินฟรังก์สวิส เงินยูโร และเงินสกุลอื่นๆอีกมากมาย เนื่องจากบริษัทมีการพัฒนาเทคโนโลยีชั้นสูงต่อเนื่อง เพื่อรักษาความปลอดภัยในกระบวนการผลิต และป้องกันการปลอมแปลงธนบัตร

ในช่วงสถานการณ์โควิดระบาด การพิมพ์ธนบัตรกระดาษเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากความต้องการธนบัตรในประเทศต่างๆขยายตัว ในขณะที่ สงครามรัสเซีย–ยูเครน ก็ส่งผลคล้ายคลึงไม่แตกต่างกัน ความต้องการธนบัตรกระดาษพุ่งขึ้นหลายเท่า สะท้อนให้เห็นว่า เมื่อเกิดวิกฤติใดๆก็ตามในโลก ประชาชนจะต้องการถือเงินสดหรือธนบัตรกระดาษมากที่สุด เพื่อนำไปใช้จ่ายยามฉุกเฉินอย่างสะดวก

แม้ว่า เงินดิจิทัล จะพัฒนาไปไกล แต่ เงินสดก็ยังเป็นพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็น วิกฤติต้มยำกุ้ง วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ วิกฤติภัยธรรมชาติต่างๆ ที่กำลังทำลายโลกอยู่เวลานี้ คนทั่วโลกก็ยังโหยหาเงินสด อย่าง เกาหลีใต้ ประเทศ Cashless Society อันดับ 1 ของโลก ประชาชนใช้เงินผ่านระบบดิจิทัลสูงถึง 96.4% และ จีน ประเทศไร้เงินสดอันดับ 3 ของโลก ประชาชนใช้เงินผ่านระบบดิจิทัลสูงถึง 65.8% เมื่อเกิดภัยพิบัติธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว นํ้าท่วมหนัก ระบบไฟฟ้าถูกตัดขาดระบบการเงินดิจิทัลก็ถูกตัดขาดไปด้วย จำเป็นต้องใช้เงินสด

โดยเฉพาะ “เงินดอลลาร์สหรัฐฯ” ที่เป็น “ธนบัตรกระดาษ” เป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลก เอาไปใช้ที่ไหนก็ได้ในโลก ไม่ว่าจะมีระบบ การเงินแบบไหน การปกครองแบบไหน ก็ต้องการเงินดอลลาร์ ยิ่งเป็นประเทศที่ถูกควํ่าบาตร ยิ่งต้องการเงินดอลลาร์มากขึ้น ยิ่งเป็นโลกสีเทาหรือตลาดมืด เขาไม่รับเงินดิจิทัล แต่รับ “เงินดอลลาร์กระดาษ” ครับ ใครที่คิดว่ามีเงินดิจิทัลแล้ว เงินกระดาษจะหายไปจากโลกหรือใช้น้อยลง คงต้องคิดใหม่ครับ.