ร้านสะดวกซักโตแรง คาดปี’66 ทะลุ 4.5 พันสาขาทั่วประเทศ

ธุรกิจ ร้านสะดวกซักโตแรง

แนวโน้มร้านสะดวกซักไทยยังโตแรง คาดปี’66 ผุดเพิ่มอีก 1,150 สาขา รวมเป็น 4,564 สาขา หลังเศรษฐกิจ-ท่องเที่ยวฟื้นปลุกลงทุนจังหวัดท่องเที่ยว ผุดแคมเปญ 1 อำเภอ 1 ร้านสะดวกซัก โฟกัสตลาดภาคอีสาน-กลาง-ใต้

ธุรกิจ วันที่ 28 มกราคม 2566 บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าอุตสาหกรรมให้แก่แฟรนไชส์ร้านสะดวกซักหลายราย คาดการณ์ว่า ปี 2566 นี้ ประเทศไทยจะมีร้านสะดวกซักเปิดใหม่อีก 1,150 สาขา นับเป็นการเติบโตระดับมากกว่าพันสาขาต่อเนื่อง หลังปี 2565 ที่ผ่านมามีการเปิดสาขาใหม่ไป 1,058 สาขา ทำให้ ณ สิ้นปี 2565 ไทยมีร้านสะดวกซักรวม 3,414 สาขา

โดยการเติบโตนี้เป็นผลจาก 3 ปัจจัยคือ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวที่ทำให้มีการลงทุนในกลุ่มจังหวัดท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เช่นเดียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่คุ้นชินและนิยมใช้บริการร้านสะดวกซักมากขึ้น รวมถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดดของผู้แทนจำหน่ายที่ได้ร่วมทุนกับบริษัทขนาดใหญ่ต่าง ๆ

ธุรกิจ ร้านสะดวกซักโตแรง

นายเบนจามิน ลีโอ ดอบส์ กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัท อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ ซิสเต็มส์ แอลแอลซี กล่าวถึงทิศทางของบริษัทว่า จะมุ่งผลักดันให้ประเทศไทยมีร้านสะดวกซักในทุกอำเภอ ภายใน 5 ปี ภายใต้แคมเปญ “1 อำเภอ 1 ร้านสะดวกซัก”

เริ่มจากจังหวัดใหญ่ในแต่ละภาค โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, นครราชสีมา, อุดรธานี, ภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดสุพรรณบุรี, ลพบุรี และภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต สงขลา สุราษฎร์ธานี คาดจะมีครบ ทุกอำเภอในอีก 5 ปีข้างหน้า

ควบคู่กับการสนับสนุนตัวแทนจำหน่ายในการหาพันธมิตรกลุ่ม B2B เช่น กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สถานีบริการปั๊มน้ำมัน เป็นต้น และยังเตรียมกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจอีกหลายกิจกรรม โดยเน้นผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อดึงดูดผู้ใช้บริการร้านสะดวกซักให้กับนักลงทุนและเจ้าของร้านสะดวกซักที่ใช้ผลิตภัณฑ์และบริการของอัลไลแอนซ์ ลอนดรี้

พร้อมกันนี้ ยักษ์เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมยังเตรียมส่งสินค้าใหม่ลงตลาด โดยเน้นจุดเด่นด้านเทคโนโลยีและดีไซน์หรูหรา โดยนายเบนจามินระบุว่า สินค้าใหม่ 2 รุ่น ในแบรนด์ IPSO และ Primus จะมุ่งตอบโจทย์ผู้ใช้บริการร้านสะดวกซักที่มองหาเทคโนโลยีที่ทันสมัย

โดยรุ่นแรกจะมีจุดเด่นเป็นหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ และดีไซน์เน้นความหรูหรา ทันสมัยและแข็งแรง มีทั้งขนาด 14 กิโลกรัม และ 23 กิโลกรัม ส่วนรุ่นที่สองจะเน้นดีไซน์เรียบหรู ด้วยตัวเครื่องสแตนเลสสตีลที่เพนต์สีสเปซแบล็ก ตอบโจทย์ความหรูหราทันสมัย ทั้ง 2 รุ่นมีจะพร้อมจำหน่ายในเดือนเมษายน 2566 ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

นอกจากนี้บริษัทยังพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ใหม่ ช่วยให้เครื่องซัก-อบผ้าของบริษัท สามารถรองรับระบบ Payment อย่างเต็มรูปแบบ โดยตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศสามารถนำไปเชื่อมต่อกับระบบ Payment ของประเทศนั้น ๆ ได้ทันทีทุกรูปแบบแพลตฟอร์มการจ่ายเงิน

บทความธุรกิจที่น่าสนใจ : รอบรั้วการตลาด : Regalos X Dr. Choice